สหรัฐ ฯ เอาจริง สั่งห้ามสายการบินอาหรับนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่อง

จากเหตุการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นกับสายการบินของอียิปต์ เมื่อปี 2015 และสายการบินของโซมาเลียในปี 2016 โดยการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวก่อชนวนในการจุดระเบิด สหรัฐจึงประกาศใช้มาตรการความมั่นคงสั่งห้ามไม่ให้ 9 สายการบินจาก 8 ประเทศ นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้น ซึ่งมีผลประกาศใช้เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 ได้แก่สายการบิน 1. รอยัลจอร์แดนเนียน 2. อียิปต์แอร์ 3. เตอร์กิชแอร์ไลน์ส 4. ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ส 5. คูเวตแอร์เวย์ส 6. รอยัลแอร์มารอค 7. กาตาร์แอร์เวย์ส 8. เอมิเรตส์ และ 9. เอทิฮัดแอร์เวย์ส โดยห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำพวก แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก, หนังสืออีบุ๊ค และกล้องถ่ายรูปขึ้นไปบนห้องโดยสาร หากต้องการนำไปจะต้องโหลดอุปกรณ์ไว้ในใต้เครื่องเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการก่อการร้ายขึ้นอีก

ผลเสียที่ตามมาจากการห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่อง

จากการประกาศใช้มาตรการความมั่นคงสั่งห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่องบินโดยสาร ทำให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารย์ขึ้นว่าไอเจ้ามาตรการความปลอดภัยนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการก่อการร้ายได้อย่างไร เพราะเมื่อเอาเข้าจริงแล้วมาตรการนี้ส่งผลให้เกิดความล่าช้าต่อการบินในแต่ละครั้งและยังส่งผลเสียต่อผู้โดยสารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้โดยสารในชั้นธุรกิจที่จะต้องมีการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำงานระหว่างเดินทาง จึงทำให้ผู้โดยสารส่วนมากเกิดความลังเลใจว่าควรจะการเลือกสายการบินใหม่ที่สามารถนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ขึ้นเครื่องได้ตามปกติดีไหม เพราะหากมีการห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ขึ้นเครื่องก็จะส่งผลเสียต่อผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในการทำงานระหว่างบินด้วย เห็นทีว่ามาตรการความมั่นคงนี้จะส่งทั้งผลดีและผลเสียตามมาพอ ๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องความปลอดภัยนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่จะต้องมีการเฝ้าระวังอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการก่อการร้ายขึ้นอีก และยังเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับแก่ผู้โดยสารอีกด้วย