หึงแฟนมากโดยไม่มีสาเหตุ จะเลิกขี้หึงได้อย่างไร

การหึงเล็ก ๆ น้อย ๆ หึงหวงทำหน้าบึ้ง ไม่ยอมพูดจา หรือไม่ยอมยิ้มทั้งวันไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่อาการหึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น เริ่มควบคุมพฤติกรรมและกำหนดทิศทางของความรู้สึกของเราและคนรัก และกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์ หรือในหลาย ๆ สื่อต่างได้ ได้นำเสนอข่าวว่าคู่รักทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันถึงชีวิตเพียงเพราะหึงหวง หลายกรณีคนรักเก่าทำร้ายร่างกายคนรักใหม่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นการหึงหวงจะเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไข การหึงหวงจึงถือเป็นอีกภัยหนึ่งที่คุกคามสังคม ถ้าเรารู้ตัวว่าเราเป็นคนที่ขี้หึงมาก เราจะสามารถจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้อย่างไร

  1. บอกตัวเองว่า มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของเรา เมื่อมันเกิดขึ้นในจิตใจของเรา เราก็สามารถควบคุมมันได้ บ่อยครั้งที่อาการหึงหวงไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำของคนรักหรืออดีตคนรักเสมอไป แต่เกิดขึ้นจากหลุมในใจเราที่เราคิดว่าต้องให้คนอื่นมาเติมเต็มเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมากที่เราจะกลัวว่าคนรักเราจะไม่รักเรา คนรักเราจะรักเราน้อยลงเมื่อมองผู้หญิงหรือผู้ชายที่หน้าตาดีกว่า แต่เราก็ต้องรู้ว่าเรามีข้อดีของเรา เรามีสิ่งดี ๆ ในตัวมาก ๆ ที่คนรักเขาโชคดีที่มีเราเป็นแฟน
  2. พิจารณาว่าทำไมเราถึงไม่ไว้วางใจแฟนของตัวเอง บางครั้งหลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหาเรื่องการเชื่อใจคนอื่น การเชื่อใจคนอื่นเป็นเรื่องที่ยากมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเคยโดนนอกใจมาก่อน ซึ่งหากว่าสิ่งนี้เป็นปัญหา ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  3. ให้อิสระกับคนรักของตัวเองบ้าง แม้ว่าเขาจะเป็นคนรักของเรา แต่มนุษย์เราย่อมมีความสัมพันธ์แบบอื่น เช่น เพื่อนร่วมงาน เพื่อน พี่น้อง ครอบครัว เป็นต้น การที่เราเป็นแฟนเขา เราไม่มีสิทธิในการตัดความสัมพันธ์แบบอื่น ๆ ออกจากชีวิตเขาได้ และไม่มีใครสามารถครอบครองใครได้อย่างแท้จริง เราและแฟนคือมนุษย์สองคนที่มามีความสัมพันธ์กันในรูปแบบหนึ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น การพยายามครอบครองอีกฝ่ายว่าจะต้องเป็นของเราเท่านั้น จะต้องอยู่กับเราคนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมีเพื่อน ไม่ให้สังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานเป็นความสัมพันธ์ที่ริดรอนสิทธิส่วนบุคคลของอีกฝ่าย ในทางตรงข้าม เราเองก็ควรมีสังคมด้านอื่นของเราเองด้วยเช่นกัน
  4. พูดกับคนรักอย่างตรงไปตรงมาเรื่องความรู้สึกของเรา เมื่อความรู้สึกของเราเริ่มเข้มข้นขึ้น ถ้าเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้เราอาจจะเผลอทำร้ายคนที่เรารักโดยที่เราไม่รู้ตัว การพูดคุยกันตรง ๆ เพื่อหาทางออกร่วมกัน คุยกันว่าอะไรทำให้เรารู้สึกแบบนี้ ทำไมเรารู้สึกแบบนี้ ดีกว่าการเงียบและประชดเพราะจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายงงมากขึ้นว่าเราเป็นอะไร
  5. ต้องทำอะไรบางอย่างถ้าต้นเหตุของอาการหึงหวงของเราไม่ได้เกิดจากเรา แต่เกิดจากการกระทำของคนรักเราจริงๆ เช่น เราเห็นเขาแอบแชทคุยกับคนอื่น นี่เป็นสถานการณ์ตัวอย่างที่ไม่ดีที่สุดที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้น คือ คนรักของเรานอกใจเราจริง ๆ เราไม่ได้คิดไปเอง ซึ่งถ้าเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นจริงๆ เราไม่ควรโฟกัสไปที่ว่าเราหึงเขายังไงบ้าง หึงมากน้อยแค่ไหน แต่ควรโฟกัสว่าเราจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร จะจับมือคุยกันและผ่านไปด้วยกันหรือจะจบความสัมพันธ์นี้ลง

แม้ว่าความรู้สึกหรืออาการหึงหวงจะเกิดขึ้นจริง แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้นและไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นมาควบคุมพฤติกรรมหรือการแสดงของเรา ถ้าเราไม่ควบคุมความรู้สึกหึงหวงเหล่านั้น ความรู้สึกหึงหวงจะควบคุมเรา เมื่อนั้นเราอาจจะทำสิ่งไม่ดีไปตามอารมณ์ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายมากมาย เมื่อเราเห็นว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาก็ย่อมมีหนทางในการแก้ไขและรับมือ