วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าที่เนื้อหอม และฟอร์มแรงที่สุดในลีกน้ำหอมชั่วโมงนี้

ถ้าเอ่ยชื่อของสโมสรลีลล์ อีกหนึ่งทีมดังจากลีกเอิง ฝรั่งเศสขึ้นมาแล้วละก็ เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้คนจะคิดถึงเกี่ยวกับพวกเขานั่นก็คือ ในฐานะทีมยอดนักปั้น เพราะพวกเขามักจะทำเงินได้อย่างมหาศาล จากการที่ใช้สายตาอันแหลมคม ไปกว้านหาผู้เล่นฝีเท้าดีราคาถูก เข้ามาปลุกปั้นจนโด่งดัง และสร้างมูลค่าได้มหาศาลเมื่อจำเป็นต้องขายออกไป ที่เห็นได้ชัดก็อย่างเช่น การขายเอเดน อาซาร์ด ให้กับเชลซีเมื่อครั้งอดีต หรือการขายนิโคลัส เปเป้ให้กับอาร์เซน่อลเมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาก็ทำกำไรได้เกือบ 70 ล้านยูโร หลังดึงตัวมาจากอองเชร์ส ด้วยราคาเพียง 10 ล้านยูโรเท่านั้นเอง

และในอนาคตอันใกล้นี้ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะ ทำกำไรอย่างมหาศาลได้อีกครั้ง เมื่อกองหน้าที่พวกเขาพึ่งจะดึงตัวมาจาก ชาร์เลอรัว ทีมในลีกเบลเยี่ยม อย่างวิคเตอร์ โอซิมเฮน สามารถทำผลงานได้ดี จนเป็นที่หมายปองของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งค่าตัวที่พวกเขาจ่ายไป เพื่อแลกกับตัวโอซิมเฮนนั้น เพียงแค่ 12 ล้านยูโรเท่านั้นเอง แต่มีข่าวซุบซิบหลุดออกมา ว่ามีทีมนิรนามแอบย่องเงียบ ขอซื้อตัวเขาสูงถึง 75 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นการชิงตัดหน้าคู่แข่งรายอื่น ๆ แต่ยังไม่ปรากฎชัดว่าเป็นทีมใด

สำหรับวิคเตอร์ โอซิมเฮน เป็นผู้เล่นในตำแหน่งตัวรุก สัญชาติไนจีเรีย ซึ่งปัจจุบันเขามีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้นเอง จุดเด่นของเขาอยู่ที่ความเร็ว และความเฉียบคมในการจบสกอร์ แถมมีความสูงถึง 186 เซนติเมตร ทำให้ไม่เสียเปรียบมากนักในการปะทะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้โดดเด่นอะไร ในการเล่นลูกกลางอากาศ ดู ๆ ไปสไตล์การเล่นของเขา จะคล้ายคลึงกับ อดีตยอดกองหน้าชาวฝรั่งเศส อย่างเธียร์รี่ อองรี คือรวดเร็ว ไปกับบอลได้ดี และจบสกอร์ได้เฉียบคม ส่วนลูกโหม่งนั้น แทบจะไม่มีให้เห็นเหมือนกันอีกด้วย

ส่วนบรรดาทีมที่ตามจีบโอซิมเฮนนั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบรรดาทีมใหญ่เงินหนากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์ มิลานจากอิตาลี และพวกขาใหญ่แห่งเกาะอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนยู, เชลซี, อาร์เซน่อล และท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ ซึ่งทีมต้องสงสัยที่ว่าแอบย่องเงียบไปเสนอเงินก้อนโต ก่อนทีมอื่นก็คือสเปอร์นี่แหละ แต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่ชัด ทำให้ทุกทีมที่มารุมจีบต่างก็ยังคง มีความหวังกันอย่างเต็มเปี่ยม เชื่อว่าอีกไม่นานนี้ เมื่อแต่ละลีกได้ข้อสรุปที่แน่ชัด และเห็นแนวทางในฤดูกาลหน้าที่ชัดเจนแล้ว การแย่งตัวของโอซิมเฮน จะดุเดือดขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นทีมไหนที่สามารถ คว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้ อนาคตของเด็กคนนี้ ก็น่าจับตามองอย่างมาก และเขามีศักยภาพเพียงพอ ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าระดับโลกในวันข้างหน้า อย่างที่โอเดียน อิกาโล กองหน้าตัวยืมของปีศาจแดง ที่เป็นรุ่นพี่ในทีมชาติของเขา ออกมาบอกว่าเขานี่แหละ คือความหวังใหม่ของวงการฟุตบอลไนจีเรีย แต่ไม่ว่าอนาคตของเขาจะไปอยู่ที่ใด และไปได้ไกลแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ อนาคตอันใกล้นี้ บอร์ดบริหารสโมสรลีลล์ จะยิ้มกันแก้มปริ กับการได้กำไรมหาศาลจากดีลของเขา อย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : https://www.vanguardngr.com/2020/03/lille-place-e100m-price-tag-on-victor-osimhen/

ไทสัน-โฮลิฟิลด์ กำลังจะกลับมาล้างตากันอีกครั้ง ในวัยเกินครึ่งร้อย

นับเป็นข่าวดีที่สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย สำหรับแฟนกีฬาหมัดมวย โดยเฉพาะแฟนมวยในยุค 90 เมื่อมีข่าวออกมาว่า อดีตมวยคู่หยุดโลกอย่าง มฤตยูดำ ไมค์ ไทสัน กับ คู่ปรับตลอดกาลอย่าง อีแวนเดอร์ โฮลิฟิลด์ จะกลับมารำลึกความหลัง บนสังเวียนผ้าใบอีกครั้ง ในขณะที่ทั้งคู่มีอายุเกินห้าสิบไปแล้ว ถึงจะดูว่าเป็นการชกกัน ของนักชกที่อายุมากแล้ว แต่เชื่อว่าแฟนมวย ที่เคยติดตามการชกของคู่นี้ ย่อมจะตื่นเต้นที่จะได้เห็น พวกเขากลับมาฟาดกำปั้นกันอีกครั้งอย่างแน่นอน

เรื่องราวเริ่มต้นของข่าวนี้ มันเกิดขึ้นจากการที่มีคลิป ของทางมฤตยูดำ ไมค์ ไทสัน ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 53 ปีแล้ว ได้ทำการฝึกซ้อม โชว์ความฟิตของเขา พร้อมเผยว่าเขา จะกลับมาโชว์ลีลาการชกบนสังเวียนผ้าใบอีกครั้ง ในรูปแบบการการชกเพื่อการกุศล เพื่อหาเงินช่วยหน่วยงานทางการแพทย์ หลังจากนั้นทางคู่ปรับตลอดกาลของเขา อย่างอีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ในวัย 57 ปี ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าเขาก็มีความพร้อมเช่นกัน เพราะดูแลรักษาสภาพร่างกายของตัวเองมาเป็นอย่างดี และได้ฝึกซ้อมเพื่อดูแลร่างกายมาตลอดสิบกว่าปีมานี้ ไม่ได้ปล่อยให้ร่างกายโทรมไปตามอายุ และทางผู้จัดการของเขา กำลังพูดคุยถึงความเป็นไปได้ ที่จะให้เกิดไฟต์การกุศลนี้ขึ้น พร้อมทั้งยังบอกว่า การทำอะไรร่วมกันระหว่างไมค์ ไทสัน กับเขา มักจะออกมาดีเสมอ

การชกของทั้งคู่ เคยเกิดขึ้นมาแล้วถึงสองครั้ง ในปี 1996 และปี 1997 โดยทั้งสองไฟต์ ทางด้านอีแวนเดอร์ โฮลิฟิลด์ เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ทั้งหมด ซึ่งนอกจากการชกของพวกเขา จะเป็นระดับที่เรียกว่าไฟต์หยุดโลกแล้ว ในการชกไฟต์ที่สอง เมื่อปี 1997 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำของแฟนมวยทั่วโลก เมื่อทางฝั่งไทสัน ทำผิดกติกาด้วยการกัดหูของโฮลิฟิลด์ จนขาดติดปากออกมา ก่อนจะบ้านทิ้งบนพื้นเวที และถูกปรับแพ้ในที่สุด พร้อมกับถูกถอดถอนใบอนุญาตชกมวยไป ก่อนที่จะยื่นอุทธรณ์ จนได้ใบอนุญาตกลับมาอีกครั้ง หลังจากนั้น 1 ปี

สำหรับการรีไฟต์ของสองยอดนักชก ในไฟต์การกุศลครั้งนี้ ทางผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกำลัง พูดคุยกันเพื่อให้การชกนี้ได้เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาหนึ่งที่ทาง เอ็ดดี้ เฮิร์น โปรโมเตอร์ผู้จัดชื่อดัง ยังคงมีความกังวลอยู่ก็คือ เรื่องความปลอดภัยนั่นเอง เพราะด้วยอายุเกินครึ่งร้อยของทั้งสองคน อาจจะทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ ทำให้ทางผู้จัดจะต้องคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมในส่วนนี้ด้วย เพราะการเจอกันของพวกเขา คงจะไม่มีการยั้งมือแน่ ถ้าได้ขึ้นสังเวียนคงจะซัดกันอย่างเต็มที่ ในขณะที่ร่างกายไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนตอนหนุ่ม ๆ ทางผู้จัดจึงต้องพยายามคิดในส่วนนี้ให้รอบคอบ

เพียงแค่มีข่าวนี้ออกมา ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนมวยกันอย่างมากแล้ว เชื่อว่าตอนนี้บรรดาแฟนหมัดมวยทั่วโลก แทบจะนับถอยหลังรอเวลา ให้คู่นี้กลับขึ้นสังเวียนกันแทบไม่ไหวแล้ว เพราะนักชกคู่นี้ พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักชกที่เป็นคู่ปรับตลอดกาล แต่พวกเขายังเป็นตำนาน ของวงการมวยโลกเลยก็ว่าได้

เครดิตภาพ : https://www.espn.com/boxing/story/_/id/9598067/mike-tyson-evander-holyfield-i

โอเดียน อิกาโล่ อาจจะต้องตื่นจากความฝัน ก่อนเวลาอันควร

แฟนฟุตบอลทุกคน คงจะจำกันได้อย่างดี ถึงวันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตัดสินใจดึงตัว โอเดียน อิกาโล่ กองหน้าชาวไนจีเรีย เพื่อมาแก้ปัญหาความฝืดเคือง ในการยิงประตูของพวกเขา ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล และเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า การได้มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เปรียบเสมือนความฝันในวัยเยาว์ของเขา มันได้กลายเป็นจริงแล้ว เขาจะยอมแลกกับทุกสิ่งที่มี เพื่อให้ได้เล่นให้กับทีมในฝัน ที่เขารอมาตลอดชีวิต แต่ดูเหมือนว่าความฝันครั้งนี้ของเขา อาจจะต้องถูกปลุกให้ตื่นก่อนเวลาอันควรเสียแล้ว

ในวันที่เขาย้ายมาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย ว่าทางสโมสรคงจะอับจนหนทางจนถึงที่สุดแล้ว ในการเซ็นสัญญาผู้เล่นกองหน้า เข้ามาแก้ปัญหาการยิงประตู หลังพลาดการดึงผู้เล่นชื่อดัง อย่างฮาแลนด์ หรือแม้แต่อดีตเด็กเก่าอย่าง โจชัว คิง ที่พอจะมีมาตรฐานจากการเล่นอยู่บนเวทีพรีเมียร์ลีกอยู่แล้ว จนต้องไปดึงตัวกองหน้าจากลีกจีน อย่างเขาเข้ามาแทน ถึงแม้ว่าจะเคยฝากผลงาน บนเกาะอังกฤษมาก่อนกับวัตฟอร์ด แต่ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากนัก จนต้องระเห็จไปโกยเงินหยวนที่แผ่นดินมังกร

ทันทีที่การเจรจาของทั้งสองทีมจบลง และเขาได้ย้ายมาเล่นกับแมนยูจริง ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่าง ๆ เขาได้สร้างฐานแฟนบอลบางส่วน ด้วยบทสัมภาษณ์ ว่านี่คือทีมในฝันตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยเรื่องราวนี้ ทำให้เสียงแฟนบอลบางส่วนที่เคยวิจารณ์ กลับมาเป็นแรงสนับสนุน เอาใจช่วยให้เขาทำผลงานได้ดี กับความฝันครั้งนี้ และเมื่อเขาได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีม เขาก็ใช้ความสามารถในสนาม กลบเสียงวิจารณ์ส่วนที่เหลือทั้งหมด ให้เงียบกริบกันเลยทีเดียว ด้วยการทำ 4 ประตูกับ 1  แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 เกม และดูเหมือนว่าสไตล์การเล่นของเขา ช่วยเติมเต็มเกมรุกที่ขาดหายของปีศาจแดงได้อย่างดี ทำให้จากเสียงวิจารณ์ในวันแรก กลับกลายเป็นเสียงเชียร์ และสนับสนุนให้เขาอยู่กับทีมอย่างถาวร จนมีเสียงเรียกร้องให้ทางสโมสร จัดการซื้อขาดตัวเขาจากเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว หลังจากหมดสัญญายืมตัว

แต่ดูเหมือนว่ามันความฝันของเขา และแฟนบอลหลายคน คงจะเป็นเรื่องยากเสียแล้ว เมื่อทางปีศาจแดงเอง ต้องการขยายสัญญายืมตัวของเขา ออกไปอีกจนจบฤดูกาล หลังจากโดนพิษโควิด-19 เล่นงานจนโปรแกรมพรีมียร์ลีก มีอันต้องเลื่อนออกไป แต่ทางเจ้าของสัญญาอย่างเซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัวเอง กลับไม่ต้องการขยายสัญญาออกไป และยื่นคำขาดว่า หากทางผีแดงต้องการเขาไว้ใช้งานต่อ จะต้องซื้อขาดเท่านั้น แถมตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 20 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นเงินที่ทางผีแดงต้องคิดแล้วคิดอีกเลยทีเดียว กับการแลกกับผู้เล่นวัย 31 ปี แถมถ้าทางผีแดงไม่สนจะจ่าย พวกเขาก็ไม่เดือดร้อน และเตรียมประเคนค่าเหนื่อยมหาศาล ไว้ล่อใจ อิกาโล่ในการเล่นในลีกแดนมังกรอีกด้วย

จากที่การเล่นในโอลด์ แทร็ฟอร์ดเคยเป็นแค่ความฝัน วันนี้เขาสามารถทำให้ความฝันนั้น เป็นฝันที่สวยงามอีกด้วย แต่ด้วยการเจรจาที่ไม่ลงตัว ของทั้งสองสโมสร อาจทำให้เขาต้องกลับต้นสังกัด ก่อนที่จะได้เล่นจนจบฤดูกาล ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนความฝันอันสวยงาม ของโอเดียน อิกาโล่ ต้องถูกปลุกให้ตื่นกลางคัน โดยที่ยังไม่ถึงเวลาเช้านั่นเอง