สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณเครียด แต่คุณไม่รู้ตัว

ความเครียดที่มากเกินไปส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา หากว่าเรารู้ว่าเราเครียด เราก็สามารถหาทางออกให้ตัวเองได้ทันทีที่ต้องการ แต่ในหลาย ๆ กรณี คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังเครียด ความเครียดเกิดขึ้นได้ทุกวันและความเครียดในปริมาณที่พอดีเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อเรา เช่น เครียดว่าจะนำเสนองานออกมาได้ไม่ดีก็เลย เตรียมตัวมาอย่างดี เครียดว่าจะทำข้อสอบไม่ได้ ก็เลยตั้งใจอ่านหนังสืออย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากมันมากเกินไปมันจะทำให้พฤติกรรมในชีวิตของเราเปลี่ยนไป แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว

  1. เป็นคนขี้ลืม การลืมสิ่งต่าง ๆ อย่างง่ายดาย เช่น ลืมกุญแจรถ เปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ ลืมหยิบขยะไปทิ้ง ลืมกุญแจบ้าน อาจจะไม่ใช่อาการหลงลืมทั่วไป เพราะความเครียดและความกระวนกระวายทำให้ความสามารถในการจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ หรือความใส่ใจลดลง ความเครียดที่ต่อเนื่องและยาวนานสามารถลดความสามารถของสมองส่วนฮิปโปแคมปัสที่เป็นศูนย์กลางของอารมณ์ ความจำและระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับอาการนี้คือการออกกำลังกาย
  2. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือลดลงอย่างรวดเร็ว หลาย ๆ คนเมื่อมีอาการเครียด อาการนี้จะส่งโดยตรงต่อพฤติกรรมการกินทันที เช่น บางคนกินมากกว่าปกติหรือไม่สามารถหยุดกินได้ บางคนกินน้อยกว่าปกติหรือกินไม่ลงซึ่งส่งผลโดยตรงต่อน้ำหนักตัวของคนนั้น ๆ
  3. ประจำเดือนมาผิดปกติ ความเครียดส่งผลให้ฮอร์โมนของผู้หญิงไม่สมดุล ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้หญิงคนนั้นมีความเครียดสะสม ซึ่งอาจจะเกิดจากการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว อาการนี้สามารถแก้ไขได้โดยการออกกำลังกาย
  4. ปวดท้อง ระบบประสาทของมนุษย์เชื่อมต่อกับระบบทางเดินอาหารและความเครียดส่งผลต่อการเชื่อมต่อนั้น ความรู้สึกปวดท้องไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมการกินเสมอไป
  5. นอนมากเกินไป ความเครียดทำให้สมองปล่อยอดีนารีนออกมามากเกินไป ซึ่งเมื่อเราได้รับสารนี้มากเกินไปจนเกิดอาการง่วงนอน แต่เมื่อนอนไปแล้วก็จะทำให้นอนไม่เต็มอิ่มเนื่องจากหลับ ๆ ตื่น ๆ และฝันร้าย พอตื่นขึ้นมาก็มีอาการเหนื่อย หากเป็นแบบนี้ต่อไปอาจจะทำให้เกิดอาการซึมเศร้าตามมาได้
  6. นอนไม่หลับ บางคนนอนไม่หลับเพราะแปลกที่ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ย้ายที่นอนบ่อย ๆ แล้วยังมีอาการนอนไม่หลับ เกิดขึ้นจากความเครียด มีเรื่องในหัวให้คิดมากมาย เกิดความกังวลใจเกิดขึ้น และระบบประสาทก็ไม่สามารถหยุดทำงาน การนอนไม่หลับทำให้ร่างกายไม่ได้ฟื้นตัว และไม่ได้รับการพักผ่อนซึ่งก่อให้เกิดโรคหลายโรคตามมา หากนอนไม่หลับทุกคืน มากกว่า 2 อาทิตย์ขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อได้อ่านบทความที่กล่าวมาทั้งหมดในเบื้องต้นแล้วและค้นพบว่าตัวเองมีอาการเครียดและอยากรับมือหรือขอความช่วยเหลือก็สามารถทำได้ทันที และอาการเครียดส่วนใหญ่หากยังไม่ใช่โรค สามารถแก้ไขได้ด้วยการออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งเอ็นดอร์ฟินออกมา ทำให้คลายเครียดและคลายความเจ็บปวด แต่หากกลายเป็นโรคแล้วก็ต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที

วิธีรับมือกับการเมืองในออฟฟิศและเพื่อนร่วมงานขี้นินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง

เชื่อว่าหลายคนที่คิดอยากจะลาออกจากงาน ส่วนใหญ่แล้วเหตุผลหลัก ๆ มักไม่ได้มาจากการทำงาน แต่มาจากเพื่อนร่วมงาน เพราะการทำงานร่วมกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องพบเจอกับปัญหาต่าง ๆ ระหว่างผู้ร่วมงานที่มาจากร้อยพ่อพันแม่ มีแบ็คกราวน์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เกิดความต่างทางความคิดและอารมณ์ โดยเฉพาะเรื่องการนินทาและการเมืองระหว่างเพื่อนร่วมงาน ที่ทำให้หลายคนไม่มีความสุขในเวลางาน บางคนมีวิธีรับมือในแบบต่าง ๆ ในขณะที่บางคนใช้วิธีหักดิบโดยการลาออกเพื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม วันนี้เราจะมาดูวิธีรับมือคนขี้นินทาและการเมืองในออฟฟิศ ที่จะทำให้คุณมีความสุขขึ้นในการทำงาน

  1. วางเฉย ไม่ร่วมวงสนทนา

เมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานของคุณกำลังนินทาคนในออฟฟิศ ให้คุณรีบลุกหนีและไม่ร่วมวงสนทนาด้วย เพื่อเป็นการแสดงออกว่าไม่ต้องการรับรู้เรื่องนี้ และที่สำคัญการลุกหนีอาจทำให้คุณเป็นเป้าหมายต่อไปในการนินทาของพวกเขาก็ไม่ต้องไปสนใจ เพราะคนขี้นินทาไม่ว่าอย่างไรก็ต้องนินทาอยู่แล้ว จงจำไว้ว่าคนที่นินทาเรานั้นก็เพราะเราไปอยู่ในความสนใจของเขา ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ดีกว่า หรือเราสวยกว่าเขาจึงหันมาสนใจและพยายามหาข้อบกพร่องของเรา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น และอย่าลืมว่าคนขี้นินทามักจะก้าวช้ากว่าเราเสมอจึงมีคำว่า “ นินทาลับหลัง ” ดังนั้นจึงควรวางเฉยไม่ต้องไปสนใจและทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

  1. ถามตัวเองว่าเราทำผิดอะไร?

เมื่อถูกพิษจากการเมืองในออฟฟิศหรือคนขี้นินทา เราควรมองที่ตัวเองก่อนว่าเราทำผิดอะไร? เช่น มาทำงานสายหรือไม่ ส่งงานตรงเวลาหรือเปล่า หรือมีเรื่องชู้สาวกับใครหรือเปล่า เมื่อทบทวนตัวเองอย่างนี้แล้วพบว่าผิดจริงก็ควรทำการแก้ไขปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ นำคำนินทาเหล่านั้นมาพัฒนาตนเองและคิดเสียว่าเป็นการติเพื่อก่อ แต่ถ้าเราสำรวจตัวเองแล้วยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ จากการทำงานก็ควรปล่อยผ่านและทำงานตัวเองต่อไป เพราะบางครั้งการนินทาก็เป็นแค่เรื่องที่พูดขึ้นเพื่อความสนุกของชาวออฟฟิศขี้นินทาเท่านั้นเอง

  1. เอาเวลาคิดมากไปพัฒนาตัวเอง

ปัญหาความเครียดในที่ทำงาน ส่วนมากจากพิษของการเมืองในออฟฟิศนั้นมาจากการนำคำพูดของเพื่อนร่วมงานมาคิดวกไปวนมา จนเป็นปัญหาต่อสุขภาพจิตที่ส่งผลหลายด้าน ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ควรเสียเวลาไปกับการคิดทบทวนซ้ำ ๆ โดยนำเวลาว่างจากการทำงานไปใช้ในการพัฒนาตัวเองในด้านอื่น ๆ หรือหาช่องทางหาเงินใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้และความภาคภูมิใจในตัวเอง

วิธีการรับมือกับเพื่อนร่วมงานขี้นินทาและการเมืองในออฟฟิศก็คือการวางเฉยและไม่ต้องสนใจ พยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด นอกจากนี้ควรนำเวลาว่างไปพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีความรู้หรือรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะดีกว่า และปล่อยให้คนนินทาลับหลังอยู่แต่ข้างหลังในขณะที่เราเดินนำไปไกลแล้วก็น่าจะเป็นการดีที่สุด