เปิดประสบการณ์โหดร้ายเข้าใจผิดคิดว่าผอมแล้วสวย อุทาหรณ์ของสาวคลั่งผอม

จะเห็นว่าตลอดมานั้นสื่อหลาย ๆ แขนงไม่ว่าจะเป็นโฆษณาที่ถูกผลิตออกมาอย่างไม่ขาดสายเรื่องผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของผู้หญิง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทลดหรือควบคุมน้ำหนักด้วยวิธีการจ้างดาราหรือนางแบบหุ่นสวยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เมื่อผู้บริโภคได้เสพโฆษณาประเภทนี้เข้าไปมาก ๆ ก็ทำให้เกิดความเข้าใจว่าตนจะต้องผอมมาก ๆ ถึงจะได้เป็นคนสวย อิทธิพลเหล่านี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายต่อเยาวชนหรือคนที่เสพสื่อประเภทนี้เข้าไปมาก ๆ โดยไร้วิจารณญาณ เพราะจะส่งผลให้เกิดการลดน้ำแบบผิดวิธีที่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้ในระยะยาว

เรื่องราวอุทาหรณ์นี้เป็นสิ่งที่ถูกแชร์มาจากเว็บไซต์ชื่อดังของไทย โดยมีเด็กสาววัย 18 ปีเท่านั้นเข้ามาเผยแพร่ประสบการณ์เฉียดตายของตัวเองจากโรคคลั่งผอม เนื่องมาจากเธอต้องการมีกล้ามหน้าท้องเหมือนนักแสดงหญิงที่เธอปลื้มจึงพยายามออกกำลังอย่างหนักทุกวันทั้งก่อนนอนและก่อนไปโรงเรียนในตอนเช้า อีกทั้งยังควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดและล้วงคอเอาอาหารออกมาทุกครั้งหลังรับประทานเสร็จ จนน้ำหนักของเธอเหลือเพียง 37 กิโลกรัม ส่วนสูง 161 เซนติเมตร แม่ของเธอสังเกตเห็นกระดูกไหปลาร้าและกระดูกสันหลังที่ขึ้นโง้งจนสั่งให้เธอหยุดออกกำลังกายและหยุดการควบคุมอาหารทุกอย่าง หลังจากนั้นเธอก็ได้ไปพบจิตแพทย์เพื่อทำการรักษาโรคคลั่งผอมนี้

อีกหนึ่งเหตุการณ์เป็นเรื่องของนักเรียนไทยวัยเพียง 14 ปี ที่เป็นโรคคลั่งผอม เนื่องจากถูกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเรียกว่าไอ้อ้วนทั้ง ๆ ที่ค่า BMI ของเธอก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ การเชื่อคำพูดดของเพื่อน ๆ ครั้งนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องลดน้ำหนักแล้ว โดยเธอใช้วิธีออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทุกชนิด ควบคุมการกินทุกอย่างด้วยการนับแคลลอรี่จนไม่สามารถทานอาหารปกติได้ เพราะเธอเชื่อว่าการทารแต่อาหารเหลว ๆ จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เร็วกว่าและไม่ทำให้อ้วน อีกทั้งยังล้วงคออ้วกทุกครั้งหลังจากที่ทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัว จนน้ำหนักของเธอลดลงไปถึง 20 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้นไม่นานผลกระทบต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นกับร่างกายเธอเนื่องจากความผอม เธอไม่สามารถออกกำลังหนัก ๆ ได้อีกต่อไป เพราะเมื่อหายใจเข้าแรง ๆ ปอดจะขยายจนไปชนกับซี่โครง เธอมีอาการผมร่วง เวียนหัวง่าย เลือดจาง และเป็นโรคซึมเศร้าซึ่งปัจจุบันเธอรักษาอาการนี้อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

การดูแลสุขภพนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ความกังวลเรื่องสุขภาพหรือน้ำหนักตัวที่มากเกินไปนั้นก็เป็นผลร้ายที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคซึมเศร้าที่มีผลต่อสมองและกระบวนการคิดได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรควรอยู่ในความพอดีที่ไม่สุดโต่งจนเกินไป