แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะลิเวอร์พูล ศึกวันแดงเดือด ใครจะอยู่ใครจะไป มาดูกัน!

เกมแดงเดือดที่เราได้เห็นการแข่งขันของสองทีม ที่มีความเป็นมาอย่างยิ่งใหญ่ อย่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พลูในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงต้องบอกก่อนว่านี่เป็นวันแดงเดือดที่เรียกได้ว่าเป็นการเรียกแรงใจให้กับทีมปีศาจแดงอย่างแท้จริงเพราะในช่วง 3 ฤดูกาลผ่านมา ทีมคู่แค้นอย่างลิเวอร์พลูทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนในฤดูกาลล่าสุดแฟนบอลต่างให้ความเห็นกันว่าแดงเดือดฤดูกาลนี้ คงเป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พลูสามารถมาเก็บ 3 แต้ม ในรังเหย้าของปีศาจแดงได้อย่างสบาย ๆ แต่มันกับไม่เป็นอย่างที่คิด

เกมบุกที่ห้าวหาญ หรือเกมรับที่หนักแน่น

เปิดเกมมาทีมปีศาจแดงเดินหน้าเพรสชิ่งในแดนของทีมหงส์แดงอย่างหนัก บีบให้ทีมหงส์แดงเล่นในสไตล์ที่ไม่ใช่ตัวเองมากนัก การขึ้นเกมในแดนของลิเวอร์พลูดูจะอึดอัดและทำได้ไม่เต็มที่ ไม่เหมือนกับทีมลิเวอร์พลูที่เราเห็นจนชินตา ในฤดูกาลนี้ และอาวุธหลักของลิเวอร์พลูอย่างฟลูแบ็คทั้งสองข้าง วันนี้กลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งเราต้องให้เครดิตกับทัพปีศาจแดง ที่วันนี้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพในเกมรับด้วยเช่นกัน และอาศัยลูกโต้กลับที่กุนซืออย่างโซลชาชอบใช้เป็นอาวุธให้กับทีมของเขา และวันนี้ก็ยังเป็นอีกวันหนึ่งที่ทัพปีศาจแดงใช้เกมโต้กลับของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย การโต้กลับจากแดนตัวเองของแดเนียล เจมส์ก่อนจะส่งผ่านปากประตูไปให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่งลูกบอลเข้าตาข่ายอย่างสวยงาม

ชัยชนะที่ห้ำหั่นกันไม่ลง หรือ แชมป์นี้มีคู่

ลิเวอร์พลูวันนี้ทำผิดพลาดหรือไม่ ก็ต้องตอบตามตรง ๆ ว่าทัพหงส์แดงไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย แต่เขาไม่สามารถเล่นในจังหวะเกมของตัวเองได้ อาจจะเพราะด้วยบรรยากาศที่กดดันของบรรดาเหล่าแฟนบอลปีศาจแดง ที่ส่งเสียงตะโกนเชียร์ตลอด 90 นาทีของการฟาดฟัน การขาดหายไปของสตาร์ดังอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องยอมรับว่าส่งผลต่อเกมรุกของลิเวอร์พลูอย่างมาก เพราะในเกมที่มีการกดดันของทีมรับฝ่ายตรงข้าม ซาลาห์สามารถสร้างความแตกต่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกแดงเดือนวันนี้ การขาดหายไปของ ซาลาห์ นับว่าเป็นการขาดอาวุธสำคัญของทัพหงส์แดงเลยก็ว่าได้ แต่สุดท้ายด้วยไหวพริบที่ดีของสุดยอดโค้ชอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ในการปรับเปลี่ยนแทคติกในช่วงกลางครึ่งหลังอย่างการส่ง ลาลาน่า มาแทนกัปตันอย่าง เฮนเดอร์สัน ที่วันนี้โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกตลอดเกือบ 90 นาที กองทัพปีศาจแดงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาโดยตลอด แต่ต้องชมความยอดเยี่ยมของกองทัพหงส์แดงด้วยเช่นกัน ที่ไม่ย่อท้อในตราบจนเกมสุดท้ายสิ้นสุดลง ด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งเป็นวันแดงเดือดที่มีการเดิมพันสูงอีกเกมหนึ่งเช่นกัน สำหรับในปีนี้ทำให้เราเห็นว่าต่อให้อีกทีมหนึ่งจะแย่หรือจะดีต่างกันแค่ไหน แต่เมื่อ 2 ทีมนี้มาเจอกันในศึกแดงเดือด ไม่มีคำว่าง่ายต่อพวกเขาทั้งสองทีมแน่ ๆ