วิ่งเพื่อรีดไขมันส่วนเกิน ก้าวเล็ก ๆ ที่ผลลัพธ์แสนคุ้มค่า

การวิ่งถือว่าเป็นกีฬาที่ไม่ยุ่งยากในเรื่องของการใช้อุปกรณ์ ใช้เพียงแค่สองขาเท่านั้นเอง ทุกวันนี้กีฬาวิ่งถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในหมู่ผู้รักสุขภาพทั้งหลาย จะเห็นได้จากสวนสาธารณะขนาดใหญ่หลายแห่ง ที่มีเหล่านักวิ่งหลายรุ่นมารวมตัวกัน ‘การวิ่ง’ ไม่จำกัดอายุหรือเพศ หากใช้ ‘หัวใจ’ นำพาขาทั้งสองข้างก้าวไปข้างหน้าต่างหากล่ะ

แล้วจะวิ่งจ๊อกกิ้งยังไงให้เผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มากที่สุด

การวิ่งจ๊อกกิ้งหรือการวิ่งเหยาะ ๆ เป็นการวิ่งเบา ๆ สบาย ๆ ต่างจากการวิ่งมาราธอนที่ใช้ในการแข่งขัน คือเราจะไม่มีเรื่องของเวลามากดดันนั้นเอง หากกำหนดเวลาการวิ่ง ด้วยใจกับความเหมาะสมของร่างกายเราเองมากกว่า ปกติก็อาจจะ 30 นาที หรือ 60 นาที ช่วงแรก ๆ คงต้องสลับด้วยการเดินเร็ว ๆ เพื่อปรับร่างกายให้คุ้นชินเสียก่อน แต่อย่างลืมว่า ก่อนทำการวิ่งจ๊อกกิ้งทุกครั้ง เราควรวอร์มอัพร่างกายให้พร้อมด้วยนะ สำหรับสายเบิร์นคุณรู้หรือไม่ว่าแค่คุณวิ่งเหยาะ ๆ เพียง 30 นาที ในความเร็ว 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็เผาผลาญไขมันได้ถึง 290-365 แคลอรี่ เลยทีเดียว ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพิ่มความมีวินัยให้ตัวเองอีกสักนิดด้วยการวิ่งทุกวัน วันละ 30 นาที เชื่อได้เลยว่า น้ำหนักที่หนักหน่วง ย่อมลดลงอย่างแน่นอน

วิ่งยังไงให้ถูกวิธี เพื่อลดอาการบาดเจ็บเมื่อเกิดข้อผิดพลาด

สำหรับขั้นตอนในการวิ่งจ๊อกกิ้งนั้น ความจริงก็ไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าไรหรอก ขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของร่างกายของแต่ละคนมากกว่า เรามาดูกันเลยว่า วิธีการง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นนี้ มีอะไรบ้าง

ขั้นตอนแรก ข้อนี้ห้ามมองข้ามทีเดียว นั้นคือการวอร์มอัพร่างกายเตรียมพร้อมก่อนออกวิ่งทุกครั้ง พร้อมกับยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที

ขั้นตอนที่สอง เมื่อร่างกายอบอุ่นได้ที่ก็เริ่มวิ่งกันเลย ควรให้ส้นเท้าได้สัมผัสพื้นก่อนจะลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่ฝ่าเท้า และเมื่อปลายเท้าสัมผัสกับพื้น ก็ดีดตัวไปข้างหน้า ลักษณะคล้ายถีบปลายเท้าไปข้างหลัง

ขั้นตอนที่สาม ฝ่าเท้าที่สัมผัสกับพื้นควรตั้งฉากตรงกับหัวเข่า แผ่นหลังยืดตรงเป็นธรรมชาติ ไม่เกร็งลำตัวขณะวิ่ง ตาควรมองตรงไปเบื้องหน้า

ขั้นตอนที่สี่ ลำแขนทั้งสองข้างเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะและเป็นธรรมชาติ ไม่เกร็งข้อมือและหัวไหล่มากเกินไป

ขั้นตอนที่ห้า รักษาระดับการหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ ควรหายใจจากช่วงท้อง ไม่หายใจทางปาก

แล้วช่วงเวลาไหนล่ะ ที่เหมาะสำหรับการวิ่งของเรามากที่สุด

หลายคนมักกังวลกับช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกาย แท้จริงแล้วควรเลือกเวลาสะดวกของตัวเราเองมากกว่า หากเป็นคนชอบตื่นเช้าก็เลือกเวลาเช้าตรู่สำหรับการออกไปวิ่ง ข้อดีคือไม่ร้อน กระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าพร้อมรับมือกับวันใหม่

ช่วงเวลาบ่ายก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือใช้เวลาวอร์มอัพสั้นกว่า เนื่องจากร่างกายมีการเคลื่อนไหวในกิจกรรมต่าง ๆ มาบ้างแล้ว แต่การออกกำลังในช่วงเวลานี้ ควรควบคุมเรื่องอาหารเที่ยง ที่ไม่ควรเยอะเกินไป

เวลาเย็นหรือค่ำ เป็นเวลายอดนิยมของใครหลายคน เนื่องจากเสร็จภารกิจการงาน ร่างกายได้ผ่อนคลายจากความเครียด การวิ่งจ๊อกกิ้งในช่วงเย็นจึงได้รับความนิยมจากคนทำงานค่อนมาก หลังการวิ่งควรพักอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย

สำหรับกีฬาวิ่งจ๊อกกิ้งนั้นสามารถทำได้โดยง่าย แค่จัดสรรเวลาของตัวเองให้พอดีกับจังหวะชีวิตประจำวัน อย่างน้อยใน 3-4 วันต่อสัปดาห์ ควรพาหัวใจ ปอด กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ไปออกกำลังกายเสียบ้าง เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีนั้นเอง

โยคะ กีฬาที่จะทำให้คุณก้าวข้าม คำว่าขีดจำกัดของกาลเวลา

เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนปฎิเสธไม่ได้ว่าการมีร่างกายที่แข็งแรง ที่มาพร้อมกับรูปร่างที่ได้สัดส่วนนั้นเป็นสุดยอดปรารถนาของผู้หญิงทุกคนก็ว่าได้ แม้ทุกวันนี้การออกกำลังกายจะมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง, ปั่นจักรยาน, ตีเทนนิส หากก็มีกีฬาอีกชนิดหนึ่ง ที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตติดลมบนของกลุ่มสาว ๆ นั่นก็คือ ‘โยคะ’

ศาสตร์และศิลป์ที่ผสานกันได้อย่างลงตัว

การเคลื่อนไหวร่างกายในลักษณะซ้ำ ๆ ใช้กำลังของกายในการขับเคลื่อน เพื่อให้ชีพจรและหัวใจเต้นแรงนั้นคือกีฬา หากสำหรับโยคะแล้ว หัวใจหลักอยู่ที่การยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้สอดคล้องกับลมหายใจ ‘โยคะ’ ถือกำเนิดในประเทศอินเดีย เมื่อหลายพันปีก่อน โดยกลุ่มผู้ชายที่เรียกตัวเองว่า ‘โยคี’ ส่วนผู้หญิงเรียกว่า ‘โยคินี’ ผู้สอนเรียกว่า คุรุหรือครู ประเทศทางตะวันตกได้นำศาสตร์ของโยคะ มาดัดแปลงเป็นการออกกำลังเรียกว่า ‘Hatha-Yoga’ ที่เป็นอีกแขนงหนึ่งของการฝึกโยคะ ที่เน้นความแข็งแรง ความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังเป็นหลัก การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างแช่มช้า เพื่อให้สอดคล้องกับลมหายใจเข้าออกนั้น เป็นการรวมกายรวมจิต ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

โยคะคือการวอร์มร่างกายก่อนลงสนามจริง

ในปัจจุบันนักกีฬาหลายคนเลือกโยคะเป็นการวอร์มร่างกายของตนเอง ก่อนลงสนามแข่งขันจริง โยคะช่วยทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ไม่ติดขัด สร้างความยืดหยุ่นให้ร่างกาย แถมยังลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย นอกจากเตรียมความพร้อมของร่างกายแล้ว โยคะยังช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูร่างกายที่เมื่อยล้าได้อีก หลังเกมการแข่งขันอันหนักหน่วง นักกีฬาย่อมอยู่ในภาวะของความกดดันเสมอ ‘ศาสตร์ของโยคะ’ ได้เข้ามาช่วยผ่อนปรนให้ทุกอย่างคลายลง การกำหนดลมหายใจเข้าออกขณะฝึกโยคะนั้น ยังทำให้เกิดสมาธิ ทำให้นักกีฬาลดความวิตกกังวลขณะทำการแข่งขัน เมื่อจิตถูกฝึกให้นิ่ง ย่อมส่งผลให้ควบคุมสถานการณ์ต่อเกมได้ดีอีกด้วย  

สายเบิร์นกับกีฬาโยคะ

ทุกวันนี้โยคะถูกนำมาประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองมากขึ้น จะเห็นได้ว่าสถานที่ฝึกโยคะนั้นมีมากมายเสียเหลือเกิน จุดมุ่งหมายของคนฝึกก็แตกต่างกันออกไปอีกด้วย บางคนเล่นเพื่อให้เข้ากับเทรนด์ บางคนเพื่อทำให้ร่างกายลดอาการเจ็บปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรม หากก็มีบางคนที่ต้องการเล่นโยคะเพื่อ ‘ลดความอ้วน’ แล้วทำได้จริงหรือ? เรามาดูกันว่ามีเหตุผลข้อไหนบ้าง ที่ทำให้โยคะช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้มั่ง

1.ท่างู เป็นท่าที่ช่วยลดไขมันหน้าท้อง กระชับกล้ามเนื้อท้องและหลังได้เป็นอย่างดี

2.ท่าเรือ เป็นท่าลดไขมันหน้าท้องโดยเฉพาะ จากการเกร็งกล้ามเนื้อท้องขณะยกปลายขาทั้งสองข้างขึ้นตั้งฉาก 45 องศา

3.ท่าโลมา ช่วยกระชับต้นแขนให้แข็งแรง ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อแผ่นหลัง

4.ท่าท่อนไม้ เรียกได้ว่าเป็นท่าโยคะที่ใช้พลังแขน ขา ไหล่อย่างมาก จากการนอนคว่ำหน้า เท้าชิดกัน ค่อย ๆ ดันลำตัวขึ้นจากพื้น ให้ตัวขนานกับพื้น ใช้มือและเท้ารับน้ำหนักไว้ทั้งหมด ท่านี้ช่วยกระชับกล้ามเนื้อแขนและขา เป็นอย่างดี

5.ท่าตรีโกณ ช่วยบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน ช่วยกระชับน่องไม่ให้หย่อนคล้อยอีกด้วย

จากที่แนะนำมา เป็นเพียงไม่กี่ท่าสำหรับการเล่นโยคะเท่านั้น หากยังมีท่าอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยกระชับกล้ามเนื้อให้เข้าที่ การลดน้ำหนักไม่ใช่ทำได้เพียงแค่ไม่กี่คืน หากต้องอาศัยวินัยในการกินเข้ามาประกอบด้วย แล้วรูปร่างดี ๆ ก็จะเป็นของคุณเอง

ความมหัศจรรย์ของลูกเหล็ก กีฬาเปตอง…กีฬาวิเศษสำหรับคนหลายวัย

เมื่อคิดถึงกีฬาที่ต้องใช้สมาธิในการเล่นอย่างสูง ทำให้นึกถึง ‘กีฬาเปตอง’ ขึ้นมาทันที เปตองเป็นเกมกีฬาที่อาศัยการคิด การคาดคะเน และคำนวณระยะให้ได้อย่างแม่นยำ แน่นอนสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการพัฒนาด้านสติปัญญาและจิตใจของผู้เล่นไปพร้อมกัน เพราะคุณต้องใจจดในจ่อกับลูกเหล็กกลม ๆ ที่อยู่ตรงหน้า มีหลายกรณีศึกษาที่ใช้กีฬาเปตองบำบัดอาการสมาธิสั้นของเด็ก

ต้นกำเนิดของกีฬาเปตอง และความเป็นมาโดยสังเขป

สันนิษฐานกันว่าเกิดขึ้นที่ประเทศกรีก เมื่อราว 2000 ปีก่อนคริสต์ศักราช วิธีเล่นก็ใช้ก้อนหินรูปทรงกลมโยนใส่กัน เพื่อทดสอบความแม่นยำ ตราบจนอาณาจักรโรมันเรืองอำนาจก็ได้แผ่อิทธิเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส และได้นำวิธีการเล่นชนิดนี้เข้าสู่ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศสด้วย เรียกว่า ‘การเล่นลูกบูล’ ทำให้นิยมแพร่หลายในประเทศฝรั่งเศส ต่อมาในยุคกลางของฝรั่งเศส พระเจ้านโปเลียนขึ้นครองอำนาจ พระองค์ทรงประกาศให้การเล่นลูกบูลเป็นกีฬาประจำชาติ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เล่นกัน เกมลูกบูลจึงถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดฝรั่งเศส จึงได้ก่อตั้ง ‘สหพันธ์เปตองและโปรวังซาล’ ในปี ค.ศ 1938 หลังจากนั้นจำนวนสมาชิกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ลูกบูลที่ใช้เล่นก็ถูกพัฒนาให้เป็นโลหะผสมเหล็กกล้า ข้างในมีลักษณะกลวง ความนิยมได้เผยแผ่ไปทั่วประเทศฝรั่งเศสและอาณานิคมของฝรั่งเศสอีกด้วย เกมการเล่นลูกบูลแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

1.ลิโยเน่ส์

2.โปรวังซาล (คือการวิ่ง 3 ก้าวแล้วโยนลูกบูล)

3.เปตอง (ที่นิยมเล่นในปัจจุบัน)

กีฬาเปตองเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร

ผู้ที่นำกีฬาเปตองเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยคนแรกคือ คุณจันทร์ โพยหาญ เมื่อปี พ.ศ 2518 ตอนแรกไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งได้นำเข้าเอาอุปกรณ์และวิธีการเล่นไปแนะนำให้แก่ฝ่ายข้าราชการ จึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ 2519 จึงได้ก่อตั้ง ‘สมาคมเปตองแห่งประเทศไทย’ ขึ้นมา

เปตองเป็นยาวิเศษสำหรับของฉัน

เป็นพระราชดำรัสของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าของพสกนิกรชาวไทย พระองค์ทรงโปรดกีฬาเปตองเป็นอย่างยิ่งและเล่นกีฬาเปตองเป็น ครั้นเมื่อเสด็จเยี่ยมราษฎรตามถิ่นชนบท ยังโปรดให้ข้าราชบริพารและประชาชนทั่วไป ได้ร่วมเล่นอย่างไม่ถือพระองค์ ด้วยพระประสงค์ที่ต้องการให้กีฬาเชื่อมความสามัคคี จึงได้พระราชทานกีฬาชนิดนี้ให้แก่ประชาชนชาวไทย เพื่อใช้สำหรับออกกำลังกายและการแข่งขัน นอกจากนั้นพระองค์ยังได้ทรงส่งเสริมกีฬาเปตองให้แผ่หลายภายในประเทศอีกด้วย นักกีฬาเปตองจึงได้เรียกกีฬาชนิดนี้ว่า ‘กีฬาของสมเด็จย่า’ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงโปรดเกล้าฯ รับสมาคมเปตองแห่งประเทศไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สหพันธ์เปตองแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี’

เปตองเป็นกีฬาที่ช่วยพัฒนาศักยภาพทางร่างกายและสติปัญญาของผู้เล่น นอกจากนั้นยังช่วยในเรื่องของสมาธิอีกด้วย เปตองจึงเป็นเกมกีฬาที่ต้องใช้ความคิด ทั้งเกมรุกและเกมรับ ปัจจุบันมีการแข่งขันทั้งเดี่ยว และทีมคู่ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในทุกภูมิภาคของประเทศ

เส้นทางปั่นสู่ความฝัน ชัยชนะ และจักรยานพาไปหัว ใจนำทาง

หากเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เป็นเด็กแล้วล่ะก็ หลายคนมักนึกถึงกลุ่มก๊วนเพื่อนร่วมปั่นจักรยานเล่น โดยเฉพาะแก๊งบีเอ็มเอ็กซ์คันจิ๋วแต่แล่นชิลกว่าใครนั้น สร้างความสนุกสนานและความทรงจำในช่วงเวลานั้นได้ดีทีเดียว แต่ใครจะรู้ว่า ‘จักรยาน’ ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์รวมกลุ่มเพื่อนเท่านั้น หากยังเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งด้วย ในปัจจุบันจักรยานนับว่าเป็นกีฬาที่คนนิยมเป็นอันดับต้นๆเสียด้วย

‘จักรยาน’ ถูกประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในทวีปยุโรป ช่วงศตวรรษที่ 19 และถูกพัฒนาต่อยอดจนมาเป็นต้นแบบของจักรยานในยุคปัจจุบันโดยชาวเยอรมันชื่อ Baron Kari Von Drais จะเห็นได้ว่า รูปร่างหน้าตาพื้นฐานของจักรยานในอดีตกับปัจจุบันนั้นไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จะมีก็เพียงวิศวกรรมด้านวัสดุที่ใช้ทำตัวจักรยาน ที่ได้พัฒนาไปมากเหลือเกิน จักรยานเป็นยานพาหนะสองล้อที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังขาและการทรงตัว ในอดีตเราใช้จักรยานในการขนส่ง หากในเวลาต่อมาเราใช้จักรยานเพื่อการพักผ่อนมากขึ้น รวมถึงใช้ในการกีฬาอีกด้วย

จักรยานที่ใช้สำหรับแข่งขันในปัจจุบันมีกี่ประเภท

โร้ด ไซค์ลิ่ง หรือจักรยานถนน เป็นการแข่งขันจักรยานทางเรียบ ที่ขึ้นชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะรายการ ตูร์เดอฟร็องส์ ของประเทศฝรั่งเศส

จักรยานลู่ จัดแข่งภายในเวลโลโดรม เน้นความแข่งแกร่ง ชิงไหวชิงพริบระหว่างการแข่งขันมากทีเดียว มีทั้งแบบแข่งความเร็ว และความทนทาน

ไซโครครอส นักกีฬาขาลุย ตะลุยได้ทั้ง ฝุ่น โคลน หิน ทราย ใช้พละกำลังที่แข็งแรงสุดๆ

เมาเทนไบค์  นักแข่งต้องมีทักษะและความพร้อมของร่างกาย ที่จะฟันฝ่าอุปสรรคในสนามได้ ทั้งทางลาดชันลงเขา พื้นผิวของสนามที่มีชัยภูมิที่แตกต่างกัน  

บีเอ็มเอ็กซ์ หรือ จักรยานวิบาก เป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผู้แข่งขันต้องมีทักษะในการปั่นที่ชำนาญ เพราะต้องฝ่าฟัน เนินสูง โค้งอันตราย และทำความเร็วให้ได้ด้วย

จักรยานไทรอัล คือการปั่นจักรยานข้ามเครื่องกีดขวาง

จักรยานลีลา หรืออินเดอร์ ไซค์ลิ่ง คือการปั่นจักรยานที่เน้นโชว์ลีลาท่าทางพร้อมเพลงประกอบ ส่วนใหญ่ผู้แข่งขันจะมีครั้งละ 2 คน

พาราไซค์ลิ่ง คือการแข่งขันจักรยานสำหรับผู้พิการ ใช้มือปั่นแทนขา

ประเทศไทยกับการแข่งขันจักรยานนั้นได้เริ่มต้นอย่างไร

ในปี พ.ศ 2502 มีการจัดแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 1 ขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ ได้นำการแข่งขันจักรยานเข้ามาร่วมด้วย แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อ มีหน่วยงานที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เข้ามาดำเนินการ ประเทศไทยจึงได้จัดตั้งสมาคมจักรยานขึ้นนับตั้งแต่ตอนนั้น และในปัจจุบัน สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ก็มีบทบาทสำคัญในการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานทุกประเภท

นอกจากจักรยานจะเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งแล้ว ในปัจจุบันคนยังนิยมนำจักรยานมาเป็นเครื่องออกกำลังกายอีกด้วย จะเห็นได้ว่าสนามสำหรับปั่นจักรยานนั้นผุดขึ้นมาหลายที่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง ที่หันมาใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ลองหาเวลาว่าง เลือกสนามที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก แล้วพาจักรยานคู่ใจปั่นเพื่อสุขภาพกันเถอะ

“วิ่ง” การลงทุนกับสุขภาพที่แสนจะคุ้มค่ายิ่งกว่าเบี้ยประกัน

โครงการ “ก้าวคนละก้าว” เป็นการวิ่งระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลของ “ตูน บอดี้สแลม” ที่ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดบริจาคที่ถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้คนไทยหันมาวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเอง อันจะเห็นได้จากสวนสาธารณะทุกแห่งทั่วประเทศ ต่างคลาคล่ำไปด้วยนักวิ่งทุกเพศทุกวัยมาใช้บริการในทุก ๆ วัน

                การวิ่ง ถือเป็นกีฬาและการออกกำลังกายที่สามารถเล่นได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย เพียงแค่ชุดกีฬาที่ทะมัดทะแมง กับรองเท้ากีฬาที่กระชับเท้า เท่านี้ทุกคนก็สามารถออกไปสร้างอะดรีนาลีนให้สูบฉีดทั่วร่างกายได้แล้ว โดยการวิ่งนั้นมีประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ ช่วยให้ปอดแข็งแรง การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ สร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ นอกจากนั้นยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสาร “เซโรโทนิน” ซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้อีกด้วย

                แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การวิ่งไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ โดยอาการบาดเจ็บมักเกิดบ่อยที่สุดบริเวณหัวเข่า รองลงมาคือบริเวณข้อเท้า ดังนั้นผู้วิ่งจึงควรศึกษาท่าวิ่งอย่างถูกวิธี วิ่งศีรษะตั้งตรงเป็นแกนเดียวกับลำตัว สายตามองตรงไปข้างหน้า เอนตัวไปข้างหน้า ทิ้งน้ำหนักลงที่ปลายเท้า และไม่ยกเข่าสูงจนเกินไป นอกจากนั้นการเพิ่มระยะวิ่ง หรือความเร็วในการวิ่ง ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่ออาการบาดเจ็บได้ จากการศึกษาของ VWIN ผ่านงานวิจัยต่าง ๆ พบว่า การวิ่งในระยะที่มากกว่า 64 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ จะเพิ่มโอกาสให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว การวิ่งที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 150 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและความสม่ำเสมอของผู้วิ่งเป็นสำคัญ

                การวิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุด คือการวิ่งโดยไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ดังนั้นผู้วิ่งจึงควรใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป กำหนดการวิ่งให้เหมาะสมกับกับสภาพร่างกายตนเอง ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวให้เคยชินกับการออกแรงวิ่ง และเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ ควรหยุดพักให้หายดีก่อนถึงจะกลับมาวิ่งอีกครั้ง หรือควรปรึกษาแพทย์หากพบว่ามีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

ในปัจจุบันทางภาครัฐและเอกชน ได้จัดงานวิ่งขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนและเยาวชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย มีระยะทางการวิ่งหลายระดับให้นักวิ่งเลือกเข้าร่วมตามความเหมาะสม เริ่มตั้งแต่ ฟันรัน ระยะทาง 3.5-5 กิโลเมตร, มินิมาราธอน ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร, ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กิโลเมตร ไปจนถึง ฟูลมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร โดยมักจะมีเหรียญรางวัลเป็นของที่ระลึกให้กับทุกคนที่วิ่งเข้าเส้นชัย

                การวิ่งถือเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ถูกที่สุด แต่ได้ผลตอบแทนอย่างมหาศาล ดังนั้นเราจึงควรหันมาออกกำลังกายง่าย ๆ ด้วยการวิ่งกันเสียแต่วันนี้ อย่ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง หลายคนใช้เวลาหมดไปกับการทำงานเพื่อหาเงินสะสมไว้สำหรับอนาคต โดยลืมคำนวณไปว่า การออกกำลังเพื่อสุขภาพ ใช้เงินน้อยกว่า การทำประกันสุขภาพ เป็นไหน ๆ

แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย… ชวนเพื่อนๆ มาออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรง

แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกายแล้ว คงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แต่ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ มักจะชอบพูดกับตัวเองและคนอื่นๆว่าไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ให้ไปออกกำลังกาย ความจริงแล้ว ไม่ต้องมีเวลามากมาย เพียงแค่วันละ 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ก็พอแล้ว การออกกำลังกายจะเกิดผลดีกับปอดและหัวใจ ทำให้เหนื่อยยาก ขึ้น ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องมีพื้นที่มากมาย หรือ อุปกรณ์การออกกำลังกายแพงๆอะไร มีแค่พื้นที่ในการเดินก็เพียงพอแล้ว

Continue reading

ลดน้ำหนัก… ไม่ยากอย่างที่คุณคิด

เมื่อพูดถึงโรคที่คนเป็นเยอะที่สุดก็ต้องเป็นมะเร็งเพราะคนที่เป็นไม่สามารถหายขาดได้ แต่ดูแลให้ดีขึ้นได้คนส่วนใหญ่ก็รู้ว่ามะเร็งจะเกิดจากสาเหตุใดบ้าง แต่รู้ไหม ยังมีอีกโรคหนึ่ง ที่ใกล้ตัวคนไทยมาก เป็นอันดับ2 รองจากโรคมะเร็ง ก็คือโรคอ้วน สำรวจจากสถิติ ประเทศในอาเซียน คนไทยมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรืออ้วนเป็นอันดับ2ของอาเซียน นั่นเอง

Continue reading